5 เคล็ดลับเพิมความจำ
แน่นอนว่า ทุกคนบนโลกใบนี้ไม่สามารถจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเราได้หมดแน่นอน และในวันนี้ก็อยากจะนำเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับการเตรียมตัวและฟิตสมอง เพิ่มความจำให้จำได้แม่นและจำได้มากขึ้นมาฝากน้อง ๆ กันคะ รับรองว่าทั้ง 5 วิธีนี้ทำง่ายมั่กมาก
วิธีที่ 1 : ฟิตแอนด์เฟิร์มสมองด้วยการออกกำลังกาย
น้องๆ ผู้หญิงอย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีค่ะ การออกกำลังกายไม่ได้มีไว้สำหรับคนอยากสุขภาพดี หุ่นดีเท่านั้น แต่ถ้าอยากสมองดีด้วยต้องหันมาออกกำลังบ้างแล้ว เมื่อไหร่ที่เราได้ออกกำลังกาย สมองของน้องๆ ก็ได้ออกกำลังกายไปด้วย เพราะขณะที่ร่างกายของเราเคลื่อนไหว สมองจะได้รับออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของสมอง และยังไปกระตุ้นสารเคมีในสมองที่เกี่ยวกับความจำให้ทำงานดีขึ้นด้วย
แต่การออกกำลังกายในที่นี้ไม่ใช่ว่าอยากให้สมองทำงานดีขึ้นเยอะๆ ก็เลยออกกำลังกายทั้งวัน หักโหมสุดฤทธิ์ อันนี้กลัวว่าจะช็อกกันไปซะก่อน ประเภทนี้นอกจากจะเหนื่อยเปล่าแล้วยังไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสมองเพิ่มด้วย เอาเป็นว่าออกกำลังกายแต่พอดีให้เลือดลมในร่างกายได้สูบฉีดไปเลี้ยงสมองแค่นี้ก็ถือว่าดีแล้วค่ะ
วิธีที่ 2 : ใช้อารมณ์ในการจำบ้าง
โอ้ว! วิธีฟังดูแปลกๆ แฮะ แต่หลักการไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ ก่อนอื่นพี่มิ้นท์ขอถามน้องๆ ก่อนว่าเคยเป็นแบบนี้มั้ย เช่น สอบเสร็จแล้วมักจะลืมเนื้อหาที่อ่านสอบ แต่เวลาตกหลุมรักใครเรามักจะจำทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคนคนนั้นได้ หรือแม้กระทั่งโกรธใคร เกลียดใคร เพราะอะไร จำได้แม่นมาก!!
"อารมณ์" เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สองเหตุการณ์ให้ผลลัพธ์ต่างกัน ก็เพราะว่าสิ่งที่เราทำด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกจะทำให้เราจำได้แม่นขึ้น ดังนั้นถ้าอยากจำแม่น ลองเอาเทคนิคนี้ไปใช้ดูบ้าง ลอง "อิน" กับสิ่งที่ทำ จะฝึกเรียนภาษาก็ต้องอินกับภาษาเขาก่อน จะอ่านหนังสือก็ต้องอินกับเรื่องที่อ่าน (เวลาอ่านนิยายแล้วอินว่าเป็นนางเอก จะจำเรื่องนั้นแม่นมากก 555) จะหัดขับรถก็ต้องอินกับการฝึกขับรถ การใช้อารมณ์ร่วมหรืออินกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ จะทำให้เราใส่ใจกับเรื่องนั้นๆ แล้วจะจำได้แม่นนั่นเองค่ะ
วิธีที่ 3 : หาอะไรใหม่ๆ ที่ท้าทาย
วิธีที่ 3 : หาอะไรใหม่ๆ ที่ท้าทาย
กิจกรรมเดิมๆ เบื่อแล้ว ลองหาอะไรใหม่ๆ ทำดูบ้างนะคะ จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ ให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าแล้ว ยังทำให้เซลล์สมองได้รับประสบการณ์ใหม่ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ บางคนเข้าใจผิดคิดว่าใช้สมองหนักเกินไปไม่ดี แต่ความเป็นจริงแล้วยิ่งเราใช้สมองมากเท่าไหร่ สมองจะยิ่งพัฒนาขึ้นเท่านั้น (แต่ก็ควรผ่อนคลายบ้างนะ) ซึ่งแน่นอนว่าความจำเราจะดีไปด้วย หากไม่เข้าใจลองดูผู้สูงอายุก็ได้ จะเห็นว่าถ้าไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องคิด ก็มีโอกาสที่สมองจะเสื่อมได้
แล้วอะไรคือความท้าทายของสมอง? ในที่นี้ไม่ได้ให้น้องๆ ไปบันจี้จั๊มพ์กลางทะเลนะ แต่แค่จะบอกว่าลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ เช่น เล่นดนตรี เล่นเกมที่ไม่เคยเล่น หรือฝึกจากกิจวัตรประจำวันลองเรา เช่น ฝึกใช้มือข้างที่ไม่ถนัด จากเดิมใช้มือขวาแปรงฟันก็ลองมาเปลี่ยนมาใช้มือซ้าย เป็นต้น
วิธีที่ 4 : แค่หัวเราะ ความจำก็เพิ่มขึ้น
เคยได้ยินมั้ยว่า "การหัวเราะ" เป็นยาที่ดีที่สุด บางคนอาการหนัก แต่กำลังใจดี อารมณ์ดี จากหนักๆ กลายเป็นหายปกติก็มีให้เห็นมากมาย ซึ่งการหัวเราะเกี่ยวข้องกับสมองโดยตรงเหมือนกันนะ เพราะเวลาที่เราหัวเราะจะหลั่งสารเอนโดรฟิน ทำให้ร่างกายมีความสุข สมองก็จะถูกกระตุ้นในทางที่ผ่อนคลาย สมองเราก็จะแล่นฉิวปลิวว่อนเลยค่ะ ส่วนวิธีการหัวเราะก็คงไม่ยากมั้งคะ ยิ่งเราเป็นคนไทยด้วยแล้ว อารมณ์ดี เฮไหนเฮนั่น หากนึกวิธีไม่ออกให้อยู่กับเพื่อนเยอะๆ แล้วเล่าช็อตฮาๆ ประสบการณ์หน้าแตกให้เพื่อนเราฟัง รับรองว่าพอมีคนขำก็จะขำกันไม่หยุด บางคนไม่รู้ว่าเพื่อนขำอะไร แต่เห็นเพื่อนขำก็หัวเราะเพราะเพื่อนขำนี่แหละ โอ้ยย! นึกแล้วขำ
เอาเป็นว่า อย่าเครียด อารมณ์ดี หัวเราะบ่อยๆ ยิ้มง่ายๆ จะเป็นผลดีต่อสมองและระบบความจำของเราจ้า
เอาเป็นว่า อย่าเครียด อารมณ์ดี หัวเราะบ่อยๆ ยิ้มง่ายๆ จะเป็นผลดีต่อสมองและระบบความจำของเราจ้า
วิธีที่ 5 : นั่งสมาธิก่อนนอน
หัวเราะคลายเครียดกันไปแล้ว เปลี่ยนฟีลลิ่งมาในโหมดคนดี สวดมนต์นั่งสมาธิกันบ้าง การนั่งสมาธิถือว่าเป็นเทคนิคขั้นเทพที่ช่วยพัฒนาสมองเลยนะคะ เพียงแต่วิธีการอาจจะดูน่าเบื่อไม่ค่อยเหมาะกับวัยรุ่นอย่างน้องๆ พี่มิ้นท์ก็เลยขอปรับ เปลี่ยนมานั่งเฉพาะก่อนนอนก็พอค่ะ เพียงแค่วันละไม่กี่นาที ความจำจะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ
ทั้งนี้เพราะสมองของเราเป็นตัวควบคุมความคิด ความจำ อารมณ์และความรู้สึก ซึ่งมีกลไกที่ซับซ้อนมาก ซึ่งโครงสร้างและการทำงานของสมองเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ เคยมีการทดลองมาแล้วว่าคนที่นั่งสมาธิเป็นเวลานานๆ จะมีเซลล์สมองเพิ่มขึ้น การทำงานของคลื่นสมองก็จะดีขึ้น คือ ช้าลงแต่สม่ำเสมอมากขึ้นนั่นเองค่ะ ดังนั้นถ้าอยากจำแม่น จำนาน นั่งสมาธิช่วยได้น้า ลองดูๆ
อย่าลืมเอาเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันนะคะ รับรองเห็นผลแน่นอนคะ